周末去了趟图书大厦,原本想找的书没有找到,随手翻开一本翻译教程,又碰巧看到了书后附送的翻译练习中有这两部我期待已久的小说原文。于是拍了下来。看看原著作者是用什么样的语言去描绘的吧。这两位可都是泰国文学史上赫赫有名的大家。虽然泰语是偏口语性的语言,但也可以描摹出动人生动的画面。
สี่แผ่นดิน (ตัดตอน)四朝代
วันหนึ่ง
พลอยถามแม่ถึงเรื่องพี่น้องเหล่านี้ว่าทำไมคนจึงเรียกลูกเจ้าคุณพ่อว่าคุณอุ่น
คุณชิด คุณเชย แล้วทำไมจึงเรียกลูกอื่นว่าพ่อเพิ่ม แม่พลอย แม่หวาน
แม่มองหน้าพลอยครู่หนึ่งแล้วหัวเราะตอบว่า
“เพราะพวกเอ็งมันลูกเมียน้อย นั่นท่านลูกคุณหญิงก็ต้องเป็นคุณไปหมด เขาไม่เรียกว่าอีพลอยก็ดีถมไปแล้ว”
ตั้งแต่พลอยจำความได้มาจนถึงอายุ ๑๐ ขวบ
พลอยมีความรู้สึกว่าแม่และคุณอุ่นพี่สาวใหญ่มีเรื่องตึงๆกันอยู่เสมอ
จริงอยู่
ทั้งสองมิได้โกรธกันถึงวิวาทเป็นปากเสียงและต่อหน้าเจ้าคุณพ่อ
ก็พูดจาปราศัยกันเท่าที่มีเรื่องจะพูด
แต่พลอยสังเกตด้วยความรู้สึกของเด็กว่า
แม่มักจะใช้ถ้อยคำที่สุภาพเป็นพิเศษกับคุณอุ่นเสมอเป็นต้นว่าเรียกคุณอุ่นว่า
“คุณใหญ่”
เรียกตัวเองว่า
“ติฉัน”
อย่ายชัดถ้อยชัดคำ
บางทีตอนเย็นๆ
เจ้าคุณพ่อท่านเรียกเด็กๆในบ้านให้มาวิ่งเล่นกันให้ท่านดูที่สวนหน้าตึก
ใครจะส่งเสียงดังเท่าไรก็ได้และคนที่ส่งเสียงดังที่สุดและหัวเราะดังที่สุดก็คือเจ้าคุุณพ่อเอง แต่ลูกที่โตเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้วดูท่านเจ้าคุณพ่อเฉยๆไป
อย่างคุณอุ่นท่านก็เกรงใจหรืออย่างคุณชิดก็มักจะมีเรื่องเคืองใจกันอยู่เสมอ
เข้าหน้ากันไม่ติด
ลูกทุกคนเจ้าคุณพ่อท่านเป็นคนตั้งชื่อและตั้งชื่อง่ายๆพยางค์เดียวทุกคน
พลอยเคยได้ยินเจ้าคุณพ่อท่านหัวเราะเยาะเพื่อนฝูงขุนนางบางคน
ที่ตั้งชื่อลูกยาวๆว่า ทำเทียมเจ้าเทียมนาย จัญไรจะกิน
อย่างที่บ้านพระพิพัฒน์ใกล้ๆกัน
ข้างหลังภาพ(ตัดตอน)画中情思
(๑)เหตุการณ์และความรู้สึกต่างๆในวันแรกที่บันดาลให้คนๆหนึ่งเข้ามาแนบอยู่ในชีวิตของเรานั้นย่อมประทับอยู่ในความทรงจำของเราอย่างไม่มีวันลืม
เครื่องแต่ง-กายสีนํ้าเงินมีดวงคอกขาวเล็กๆหมวกสีขาวและรองเท้าสีขาว
เป็นเครื่องแต่งกายของสุภาพสตรีชุดแรกที่เข้ามาฝังอยู่ในหัวใจของข้าพเจ้า
เป็นชุดที่ข้าพเจ้ารู้สึกว่า มีสง่าและภาคภูมิอย่างยิ่ง
หม่อมราชวงศ์กีรดิเป็นคนร่างอวบ
แต่ว่าไม่ใช่คนใหญ่โตสมบูรณ์และเปล่งปลั่ง ผิวอ่อน
ควงหน้านั้นเมื่อได้สังเกตเห็นโดยใกล้ชิดและบ่อยครั้ง
ก็ยิ่งประจักษ์ในความสวยงามเด่นชัดทวีขึ้น
ดวงตาใหญ่ภายใต้ขนคิ้วยาวมีนํ้าสุกใสหล่ออยู่ในดวงตานั้น
แก้มปลั่งคางเล็ก เชิคนิคหน่อยจนมีรอยบุ๋มอันน่าพิศวาสเหนือลูกคางนั้น
ริมฝีปากเรียวยาวและเต็มประทับด้วยรูปสามเหลี่ยม
มีสีแดงสองรูปเบื้องบนและอีกรูปหนึ่งที่เบื้องล่าง
ทำให้ริมฝีปากบางคู่นั้นมีความงามเหนือสิ่งใดๆหมด
ข้าพเจ้าต้องยอมสารภาพว่าไม่เคยเห็นริมฝีปากงามคู่ใดที่จะได้เคยตั้งอยู่บนคางเล็กๆนั้นและยังตบแต่งได้งามถึงปานนั้นด้วย
(๒)ในชีวิตของข้าพเจ้า
ได้ผ่านความงามของคืนเดือนหงายมานับตั้งร้อยๆครั้งแล้ว
แต่สายตาของข้าพเจ้าไม่เคยพานพลสิ่งที่มีชีวิตใดๆในท่มกลางแสงเดือนอันสว่างจ้าที่จะงามเหมือนภาพของสตรีผู้หนึ่งที่อยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า
ณ บัดนี้
เพื่อที่จะหาทางเพิ่มความสำราญใจเล็กน้อย
ในการออกมาเที่ยวเล่นในสวนคืนวันนั้น
หม่อมราชวงศ์กีรติสวมกิโมโนแพรสีเขียวมีลวดสายสีแดงเด่น
บนพื้นสีขาวนั้นดูงามดั่งดอกคริสแซนติมั่นช่อใหญ่ที่ข้าพเจ้าได้ชม
ณสวนตาการะซูกะเมื่อฤดูออตั้มที่แล้ว จันทร์แหวกเมฆออกมาเต็มดวง
แสงส่องดอกคริสแซนติมั่นที่มีชีวิตวิญญาณทั่วสรรพางค์กาย
เมื่อหม่อมราชวงศ์กีรติเงยพักตร์ขึ้นรับแสงจันทร์นั้นมีลมโชยพัดมา
เส้นเกศาของเธอเต้นอยู่กลางแสงจันทร์
นํ้าที่หล่ออยู่ในดวงเนครของเธอเป็นประกาย
เรียกร้องความสนใจทั้งหมดของข้าพเจ้าให้มารวมอยู่ ณ
ที่นั้น
(๓)หม่อมราชวงศ์กีรตินั่งอยู่บนที่นอน
หลังพิงหมอนด้านหัวเตียงเหยียดเท้า ไปตามส่วนยาวของเตียง
มีผ้าขาวลวดลายศิลปแบบจีนสีเขียวคลุมกายท่อนล่าง
สวมเสื้อสีเดียวกับลวดลายของผ้าคลุมนั้น
ยังทีเสื้อคลุมกำมะหยี่สีดำสวมอยู่อีกชั้นหนึ่ง
เป็นการปกป้องกำบังมิให้ข้าพเจ้าแลเห็นส่วนต่างๆแห่งร่างกายซึ่งจะชวนให้ลงความเห็นได้ว่า
ร่างนั้นกำลังเคลื่อนเข้ามาอยู่ในแคนมรณะเต็มที่แล้ว
ทรงผมและดวงหน้าได้รับการตกแต่งอย่างประณีตบรรจง
สามารถพลางความเหี่ยวแห้งทรุดโทรมอันแทบจะถึงซึ่งภินทนาการไว้ได้
ในขณะที่ได้เหลือบดูไปแต่ผาดๆรูปสามเหลี่ยมสีแดงสมรูปบนริมฝีปากงามคู่นั้นแทบจะทำให้ข้าพเจ้าหลงไปว่า
หม่อมราชวงศ์กีรติมิได้ประสบความเจ็บป่วยแต่อย่างใดเลย
加载中,请稍候......